ติดต่อโอคามูระ
ติดต่อโอคามูระ
กรุณาติดต่อเรา
สถานที่จำหน่าย
ค้นหาผลิตภัณฑ์ของเราใกล้คุณ
ผลิตภัณฑ์
โซลูชัน
บทความ
มากกว่า
ความยั่งยืน
7 เมษายน 2020
ในบทความนี้ ผู้เขียนจะพาผู้อ่านทุกท่านไปรู้จักกับระบบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน รวมถึงธุรกิจและไลฟ์สไตล์การทำงานของริก พาเซนเนียร์ (Rick Passenier) นักธุรกิจชาวดัตช์ ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับสังคมแบบยั่งยื
ริก พาเซนเนียร์ (Rick Passenier) ผู้ก่อตั้งบริษัท PACE Business Partners และ บริษัท GO!PHA รวมถึงเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน
เกิดเมื่อปี 1987 ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดลฟท์ (Delft University of Technology) เอกการออกแบบเชิงอุตสาหกรรม ภายหลังจากการทำงานให้กับบริษัทออกแบบ NorthernLight และบริษัทที่ปรึกษา Squarewise เขาก็ได้เริ่มสร้างธุรกิจของตนเองขึ้นมา และได้ก่อตั้งบริษัท Poopy Cat ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดจำหน่าย และพัฒนาอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ต่อมาในปี 2017 Pets Place ได้เข้ามาซื้อบริษัทนี้ไป ในปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน และผู้อำนวยการของบริษัท PACE Business Partners ซึ่งเป็นบริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้นมาในปี 2013
หลักการของเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนนั้นครอบคลุมมากกว่า 3R ได้แก่ การลดการใช้ (Reduce) การใช้ซ้ำ (Reuse) และการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นเองก็ได้ใช้วิธีการนี้มาจนถึงปัจจุบัน
เศรษฐกิจหมุนเวียน คือระบบเศรษฐกิจแนวใหม่ที่ใช้ทรัพยากรและของเสียที่มีอยู่ โดยไม่ต้องเพิ่มวัตถุดิบใดๆ เข้าไปเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของทรัพยากร จุดเด่นของหลักการนี้ คือการคำนึงถึงการนำกลับมาใช้ใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต
สหภาพยุโรป หรือ อียู ได้ประกาศให้เศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เนื่องจากทางสหภาพยุโรปคาดหวังถึงการพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันระหว่างประเทศ รวมถึงการสร้างอาชีพใหม่ๆ ให้แก่สังคม ตลอดจนการบรรลุสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
จากผลการศึกษาของ Accenture ในปี 2015 พบว่า หากเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจให้เป็นเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน จะก่อให้เกิดผลประโยชน์เป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูงถึง 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2030
เนเธอร์แลนด์ถือเป็นประเทศที่กำลังก้าวหน้าในเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน และประกาศตนว่าจะกลายเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนให้ได้ภายในปี 2050 ทั้งรัฐบาล เทศบาล และบริษัทเอกชนต่างๆ ก็ต่างมุ่งมั่นพากันดำเนินการตามโครงการริเริ่ม
ริก พาเซนเนียร์ (Rick Passenier) เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน อาศัยอยู่ในเมืองอัมสเตอร์ดัม เขามีความตระหนักถึงเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนอย่างแรงกล้า และเป็นผู้แทนแห่งบริษัท PACE Business Partners และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอย่าง GO!PHA
เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงสังคมที่ยั่งยืน ริกเข้าใจดีว่าองค์กรจะต้องมีการปรับเปลี่ยนจากภายใน โดยก่อนที่เขาจะเริ่มก่อตั้ง PACE Business Partners และเข้าเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร GO!PHA เขามีประสบการณ์ทำธุรกิจอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง ซึ่งเขาได้สร้างความแตกต่างให้แก่วงการโดยสร้างผลกำไรให้แก่บริษัทควบคู่ไปกับการตอบแทนสังคม
เดวิด (ด้านซ้าย) เป็นพนักงานคนแรกที่ทำงานให้กับองค์กร GO!PHA
และริก (ด้านขวา)
ธุรกิจอะไรที่ตระหนักถึงการย่อยสลายของผลิตภัณฑ์
ในปี 2013 ริก และโทมัส เวลส์ เพื่อนของเขา ร่วมกันเปิดบริษัท Poopy Cat ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตแผ่นกระดาษแข็งที่สามารถรีไซเคิลได้
วิดีโอเจ้าแมวเหมียวซึ่งเป็นวิดีโอโปรโมทนั้นโด่งดังเป็นอย่างมาก จนถึงกับมีผู้เข้าชมมากกว่าล้านครั้ง และยังถูกพูดถึงอย่างแพร่หลาย บ้านและของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่มักทำมาจากพลาสติก หากคุณเลี้ยงแมว คุณจะทราบดีว่าเจ้าเหมียวตัวน้อยของคุณมักชอบเล่นกล่องลังที่ใส่ของเล่นมากกว่าของเล่นที่คุณซื้อมาเปย์มันเสียอีก วัสดุใดๆ ก็ตามที่ทำมาจากกระดาษไม่ได้เป็นเพียงแค่วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นวัสดุที่เจ้าเหมียวโปรดปรานและสนุกกับมันได้อีกด้วย ข้อดีอีกอย่างของบริษัทนี้คือเจ้าของกิจการสามารถใช้แนวคิดเรื่องความยั่งยืนมาใส่ในผลิตภัณฑ์ และผู้ใช้เองก็จะสามารถคำนึงถึงความยั่งยืนได้ทุกวันผ่านความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับสัตว์เลี้ยงที่คุ้นเคย ในปี 2017 พวกเขาได้ขายบริษัทนี้ให้กับ Pets Place ถึงกระนั้นผลิตภัณฑ์ก็ยังได้รับความนิยม และขายดีเป็นอย่างมาก
ในปี 2013 ริก และ มาเรียอันน่า ซาริสโซวาได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท PACE Business Partners
พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 200 คนที่คอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับวัสดุที่หลากหลายและวัสดุใหม่ๆ ซึ่งอาจสร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาดได้ ทั้งยังได้ทำงานร่วมกับบริษัทชั้นนำระดับโลก และสถาบันต่างๆ ที่อยู่ภายใต้รัฐบาล รวมถึงบริษัทหลายแห่งในญี่ปุ่น ผู้เชี่ยวชาญของพวกเขาจะได้รับมอบหมายให้รับงานตามความถนัด
ริกทำงานให้คำปรึกษาในโครงการผลิตภัณฑ์ความงามจากบริษัทสัญชาติเช็กแห่งหนึ่ง ตัวผลิตภัณฑ์นี้เองทำจากวัสดุธรรมชาติ และสามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ
และเขายังเป็นเทรนเนอร์ให้กับกิจกรรมของ CIRCO ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ รูปแบบการบริการ และธุรกิจให้เป็นไปตามแนวคิดการหมุนเวียนอีกด้วย ซึ่งวิธีการดังกล่าวเรียกว่า การออกแบบการหมุนเวียน (Circular Design)
หลักการนี้ไม่ได้ครอบคลุมแค่ในระดับบริษัท หรือระดับเทศบาลของเนเธอร์แลนด์เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงประเทศต่างๆ อีกด้วย เขาได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากการเวิร์คช็อปในประเทศไทย ดินแดนซึ่งเต็มไปด้วยความท้าทายในเรื่องพลาสติก บรรจุภัณฑ์ และเกษตรกรรม
อะกิฮิโกะ คุมะโอกะ (Akihiko Kumaoka) ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศญี่ปุ่น เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีม และดูแลงานในด้านต่างๆ ตั้งแต่ด้านการให้คำปรึกษาจนถึงการวิจัยตลาด พวกเขาได้พาเจ้าของบริษัทต่างๆ ในยุโรปมารู้จักกับวัสดุกระดาษที่ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น
ยกตัวอย่างเช่น MAPKA วัสดุชนิดใหม่จากกระดาษซึ่งได้รับการพัฒนา และคิดค้นโดยสถาบันการวิจัยเพื่อสิ่งแวดล้อม (Eco Research Institute Ltd.) เป็นวัสดุที่ผลิตมาจากผงกระดาษและพลาสติก วัสดุหลักที่ใช้ในการผลิตกระดาษนั้นช่วยลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ โดยอ้างอิงจากค่าการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การออกแบบวัสดุชนิดนี้คำนึงถึงกระบวนการย่อยสลายเป็นหลัก จึงเป็นที่จับตามองของหลายบริษัท อย่างบริษัทของเล่นรายใหญ่ บริษัทเครื่องใช้ในบ้าน และบริษัทผู้ผลิตวัสดุสำหรับบรรจุภัณฑ์
ข้อตกลงการจัดฝึกอบรม CIRCO ในประเทศไทย
จากกรณีทั้งหลายเหล่านี้ ทั้งผู้ผลิต (รวมถึงพนักงาน) และผู้บริโภค
ย่อมได้รับผลประโยชน์จากการสร้างความตระหนักรู้ถึงขั้นตอนการย่อยสลายของผลิตภัณฑ์
เมื่อเปรียบเทียบความเคลื่อนไหวในหลายประเทศของยุโรปแล้ว แนวทางในการจัดการพลาสติกของญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างที่จะช้ากว่า ยกตัวอย่างเช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่จัดจำหน่ายสินค้าไร้แพคเกจในเยอรมนี ชั้นวางของที่มีแต่ผลิตภัณฑ์ปลอดพลาสติกซึ่งเป็นที่จับตามองอย่างแพร่หลายยังเปิดตัวในห้างขายปลีกสัญชาติดัตช์อย่าง Eco Plaza เป็นแห่งแรกของโลกอีกด้วย ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ผู้บริโภคหลายรายมักเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือสร้างผลกระทบแก่สิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด แม้สินค้าเหล่านั้นจะมีราคาแพงกว่าก็ตาม
แม้ในทุกวันนี้ ภาชนะที่เราใช้ใส่อาหารตามซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านสะดวกซื้อต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่นก็ยังคงทำมาจากพลาสติก วัสดุที่ใช้แล้วทิ้งเหล่านี้จะถูกเผา ฝัง หรือไม่ก็ถูกนำไปทิ้งลงทะเล หากวัสดุจำนวนมากยังคงหลงเหลืออยู่ตามธรรมชาติในโลกของเราแบบไม่ย่อยสลายแล้วล่ะก็ สิ่งแวดล้อมของเราก็จะได้รับผลกระทบร้ายแรงอย่างแน่นอน แต่ยังโชคดีที่ความตระหนักรู้ของเรานั้น จะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตให้ดีกว่าเดิมได้
ในฐานะผู้บริโภคคนหนึ่ง เราควรพิจารณาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิต ทั้งในขั้นตอนการผลิตและการจัดจำหน่าย ส่วนในแง่ของผู้ผลิตและจัดจำหน่าย เราก็ควรคำนึงถึงผลกระทบทั้งต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และสิ่งมีชีวิต รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้สามารถย่อยสลาย และนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างยั่งยืน ผู้ผลิตก็ย่อมได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการที่สามารถย่อยสลาย และนำกลับมาใช้ใหม่ได้
ในฐานะที่คุณริก เป็นทั้งตัวแทนของ PACE Business Partners และองค์กร GO!PHA ผู้เขียนจึงถือโอกาสสัมภาษณ์เขาในเรื่องไลฟ์สไตล์การทำงาน และความสุขของเขา ว่ากันว่าในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างเนเธอร์แลนด์ จะให้ความสำคัญกับการปรับสมดุลชีวิตการทำงาน หรือ Work-life balance แต่คุณริกดูเหมือนทำงานหนัก และค่อนข้างยุ่งในทุกวัน
คุณริกให้สัมภาษณ์ว่า เขารักและสนุกกับการทำงาน มันจึงง่ายมากที่จะมีแรงในการทำงานโดยไม่รู้สึกเหนื่อยเลย เขาได้พบว่าการคิดวิเคราะห์เกี่ยวกับนวัตกรรมร่วมกับผู้คนจากหลากหลายประเทศนั้นเป็นกิจกรรมที่แสนจะคุ้มค่า
นอกจากการทำงานแล้ว ในช่วงวันหยุดหรือหลังจากเลิกงาน คุณริกก็มักจะเล่นกีฬาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรักบี้ เซิร์ฟบอร์ด และการเข้ายิม แม้บางครั้งเขาจะทำงานในออฟฟิศเป็นเวลานาน แต่เขาก็ไม่ได้อยู่ทำงานจนดึกดื่นเหมือนในญี่ปุ่น ซึ่งดูเหมือนว่าคุณริกจะรู้จักตัวตนของเขาเองเป็นอย่างดี เขารู้ว่าสิ่งไหนทำให้เขามีความสุข และเขาเองยังรู้จักใช้ความสามารถของตนในการช่วยเหลือผู้คนและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
เป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วที่การปรับสมดุลชีวิตการทำงานเริ่มเป็นที่แพร่หลายในญี่ปุ่น ผู้คนเริ่มให้ความสนใจกับการลดชั่วโมงการทำงานล่วงเวลา เริ่มปรับสมดุลชีวิตและการทำงานกันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเรามุ่งที่จะปรับสมดุลชีวิตการทำงานของพวกเราแล้ว สิ่งสำคัญที่เราต้องคำนึงถึงอีกอย่างหนึ่งนอกจากของสุขส่วนตนของเรา คือกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะไม่ส่งผลกระทบอันเป็นอันตรายต่อผู้อื่น
บทความตีพิมพ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของนิตยสาร WORK MILL
เขียนโดย มาริโกะ ซาโต้ ; ภาพ โดย มาร์ค โคเลน